About Me

รูปภาพของฉัน
Bangkok, Thailand
นักเดินทางอิสระ

9/01/2552

ข้อมูลทั่วไปประเทศอิตาลี

Italy at a Glance



  • อิตาลีตั้งอยู่ทางตอนใต้ของยุโรป เป็นหนึ่งใน 7 ประเทศอุตสาหกรรมที่ร่ำรวย หรือ G7 เป็นสมาชิกสหาภาพยุโรป หรือ EU มีการปกครองแบบสาธารณรัญประชาธิปไตย มีประธานาธิบดี (President) และนายกรัฐมนตรี (Prime minister) ซึ่ง PM (Prime Minister) จะมีอำนาจมากกว่าในการปกครองประเทศ Prime minister คนปัจจุบันชื่อเซอร์วิโอ เบลลุสโคนี เป็นมาแล้ว 3 สมัย เป็นคนที่รวยที่สุดในประเทศเพราะเป็นเจ้าของสื่อสำคัญๆของประเทศด้วย

  • รัฐบาลอิตาลีมักเป็นรัฐบาลผสม (Coalition) เพราะมีประมาณ 30 พรรคการเมืองดังนั้นเมื่อมีการเลือกตั้ง จึงต้องมีการรวมพรรคเพื่อให้ได้เสียงข้างมาก

  • Mafia ของอิตาลี (ข้อมูลจากไกด์ Elio) mafia ผังรากลึกมามากกว่า 200 ปี โดยเฉพาะทางอิตาลีตอนใต้ Mafia เป็นเหมือนหน่วยงานที่ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนทางภาคใต้ แต่มีการปฏิบัติผิดกฎหมาย ซึ่งแก้ยากแม้แต่ในสมัยของมุสโสลินี เพราะ Mafia มีส่วนเกี่ยวข้องกับนักการเมือง และผู้ปกครองประเทศหลายคนอยู่

  • อิตาลีตอนเหนือ (Northern Italy) นับจากแค้วนลาซิโอ (Lazio) ขึ้นไป มีความเจริญมากกว่าทางตอนใต้ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศ และจากดินแดนที่ติดกับกลุ่มประเทศยุโรปมากกว่า จึงทำให้ทางตอนเหนือเป็นเขตอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ให้กับประเทศมากกว่าทางตอนใต้ ผู้คนที่อยู่ทางตอนเหนือจะมีรายได้ และการศึกษาที่ดีกว่าทางตอนใต้ เป็นเหตุให้หลายๆครั้งที่คนทางเหนือมองคนทางใต้เป็นพวกขี้เกียจไม่ทำงาน และคนทางเหนือเป็นผู้จ่ายภาษีรัฐบาล ซึ่งเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ Mafia ทางตอนใต้มีอิทธิพลมากกับการใช้ชีวิตของคนทางใต้

  • การศึกษา เด็กนักเรียนจะได้รับการศึกษาฟรีจนถึง high school (ตรวจสอบข้อมูล) เด็กจะเรียนหนังสือจันทร์ถึงเสาร์ จากเช้าถึงครึ่งวัน และกลับมาทานข้าวกลางวัน และเย็นที่บ้าน

  • ที่อิตาลีเดิมเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีลูกหลายคน แม่เป็นคนที่มีบทบาทมากภายในบ้าน ส่วนพ่อจะเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัว ผู้ชายอิตาลีบางคนบอกเราว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดของคนอิตาลีคือแม่ ถึงมีการร้องว่า mama mia มากกว่า oh my god รองลองมาเป็น football และรถยนต์

  • รถยนต์ที่มีสัญชาติอิตาลี Ferrari, Fiat, Lancia & Lamborghini

  • คนอิตาลีเป็นคนที่แต่งตัวดี ผู้ชายกล้าแต่งตัว ใส่กางกางสีๆ และกล้า mix & match ส่วนผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีรูปร่าง่ที่ดีอาจจะเพราะทานอาหารที่มีสุขภาพ น้ำมันมะกอก และไม่ค่อยมีของทอด มักเป็นอบและแป้งมากกว่า สลัดก็สดและมีรสชาดที่หวานตามธรรมชาติ

  • คนอิตาลีเป็นคนที่สูบบุหรีเยอะทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ต้องทำใจ เพราะคนเดินสูบกันตามถนน เป็นที่น่ารำคาญมาก

  • คนอิตาลีเป็นคนที่ยิ้มแย้ม มีอารมณ์ขันโดยเฉพาะผู้ชาย ดูมีเสนห์ และ nice สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดีพอสมควร ยิ่งมีการศึกษายิ่งพูดได้ดียิ่งขึ้น

  • พื้นที่ 75% เป็นภูเขาและที่ราบสูง ติดกับสวิส และออสเตรีย มีภูมิอากาศเป็นแบบเมดิเตอร์เรเนียน มีประชากรประมาณ 60 ล้านคน เป็นแหล่งกำเนิของอารยธรรมโรมัน มีภาษาของตัวเอง เป็นประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป และใช้เงิน Euro

  • ใช้ไฟ 220 โวลต์ กับปลั๊กขากลมอย่างเรียวแบบ 2 ขา

  • เวลาช้ากว่าเมืองไทย 6 ชั่วโมง ยกเว้นช่วงหน้าร้อน (เดือนมีนาคม) เป็น 5 ชั่วโมง

Rome:



  • ควรซื้อบัตร Roma Pass (http://www.romapass/) ถ้าต้องการท่องเที่ยวในโรมประมาณ 3 วัน และต้องตอกบัตรทำครั้งหลังขึ้นไม่เช่นนั้นจะโดนค่าปรับ

  • การขึ้นรถไฟควรระวังกระเป๋า ควรระวังรถเมล์สาย 64 และสาย 40 ที่วิ่งจากแตร์มีนีไปยังเซนต์ปีเตอร์

  • ประวัติของโรมสร้างเมื่อ 753 ปีก่อนคริสตกาล อยู่ในแคว้นลาซิโอ (Lacio) เป็นเมืองหลวง ที่ใหญ่และมีประชากรมากที่สุด มีแม่น้ำไทเบอร์ (Tiber) ไหลผ่าน ฝั่งซ้ายเป็นนครวาติกันที่ประทับของพระสันตะปาปา และเป็นเมืองหลวงของคริตส์ศาสนา นิกายโรมันคาทอลิก

  • ตามตำนานเล่าว่า ผู้ก่อตั้งโรมคือ Romulus (โรมิวลุส) ผู้มีฝาแฝดชื่อ Remus (เรมุส) ทั้งสองถูกทิ้งในตะกร้าลอยน้ำ แม่สุนัขป่ามาพบและเลี้ยงดู เมื่อโตขึ้นโรมิวฆ่าเรมุสตายและสร้างกรุงโรมขึ้นมา
    การเดินทาง

  • จากสนามบิน Fiumicino ใช้ Leonardo Express ที่วิ่งระหว่าง Termini & Fiumicino ให้เดินตามป้าย Stazione ไปเรื่อยๆ ให้บริการทุก :05 & :35 ของทุกชั่วโมง ใช้เวลาเดินทาง 35นาที ซื้อตั๋วได้จากร้านขายบุหรี่ หรือเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ ราคา 11 ยูโรต่อเที่ยว

  • โรมมีรถไฟใต้ดิน 2 สาย
    - สาย A สีแดงวิ่งจากตะวันออกไปตะวันตก และสาย B สีน้ำเงินวิ่งจากเหนือลงใต้ หยุดที่แตร์มินี่
    แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ

  • พิพิธภัณฑ์วาติกัน (Vatican Museum): ควรใช้เวลาสักประมาณ 2 ชั่วโมง ปิดวันอาทิตย์ ค่าเข้าชมประมาณ 14 ยูโร สถานนีรถไฟใต้ดิน Cipro-Musei Vaticani และเดินเลาะกำแพงตามป้าย Museo Vaticano ไปอีก 10 นาที
    จุดสำคัญในพิพิธภัณฑ์วาติกัน
    o Apollo Belvedere รูปแกะสลักของเทพอพอลโล
    o Laocoon (เลโอคูน) นักบวชแห่งทรอยที่เตือนชาวทรอยให้ระวังกรีก
    o Belvedere Torso รูปเฮอร์คิวลีสนั่งอยู่บนหนังสัตว์
    o Raphael Room เป็นห้องบรรทมของพระสันตะปาปายูลิอุสที่ 2 ตกแต่งโดยราฟาเอลและลูกศิษย์ มีทั้งหมด 4 ห้อง
    § ห้องแรก Sala di Constantine ใหญ่ที่สุดมีภาพเฟรสโกที่เล่าเรื่องราวการต่อสู้ของจักรพรรดิ คอนสแตนติน
    § ห้องที่สอง Stanza di Eliodoro
    § ห้องที่สาม Stanza Della Segnatura ราฟาเอลว่ารูปภาพเพรสโกเป็นห้องแรก เป็นห้องสมุด จึงมีภาพ School of Athens ที่โด่งดังในห้องนี้
    § ห้องสุดท้าย Stanza dell’ Incendio del Borgo เป็นห้องทรงดนตรีของพระสันตะปาปา
    o Borgia Apartments มีภาพเฟรสโกบนเพดาน เขียนถึงตำนานโอซิริสกับเอพิส
    o Sistine Chapel มีภาพเฟรสโก The Last Judgment ของมิเคลันเจโล ที่ใช้เวลาวาดภาพกว่า 4 ปี เป็นเรื่องราวของโลกก่อนการถือกำเนิของพระเยซู และการสร้างมนุษย์
    o The Tranfiguration ของราฟาเอล เป็นภาพพระเยซูลอยขึ้นอยู่เหนือยอดเขาทาเบอร์
    o St. Jerome ของลีโอนาร์โด ดาวินซี
    o Deposition ของราราวักโจ



  • Saint Peter’s Basillca: เปิดทำการทุกวัน ไม่เสียค่าเข้าชมหากไม่ขึ้นลิฟท์ชมโดม ลงที่สถานนี Ottaviano San Pietro
    o ด้านหน้าเป็นลานกว้างมีเสาโอเบลิสก์ตั้งอยู่ตรงกลาง ขนาบด้วยน้ำพุ 2 แห่ง รอบด้านรายล้อมด้วยเสาหินนับร้อยต้น และถ้ายืนที่น้ำพุของด้านนั้น จะเห็นเสาเรียงเป็นต้นเดียวกัน สร้างโดยแบร์นินี่
    o โอเบลิสก์ นำมาจากอียิปต์ สูง 27 เมตร หนัก 300 ตัน
    o เมื่อเข้าไปในโบสถ์ ด้านขวา จะเห็นพิเอต้า (Pieta) มีความหมายว่าน่าสงสาร เป็นหินอ่อนรูปพระแม่มารีอุ้มพระศพของพระเยซูอยู่บนตัก แกะสลักโดยมิเคลันเจโลเมื่ออายุเพียง 24 ปี และเป็นชิ้นเดียวที่เสลักชื่อไว้บนแถบผ้าที่หน้าอกของพระแม่มารี
    o ตรงลานของมหาวิหารมีที่ทำการไปรษณีย์ของรัฐวาติกันที่มีแสตมป์ของวาติกันเอง ลองแวะไปส่งโปสการ์ดถึงตัวเองไป ประมาณ 85 เซนต์

  • Pantheon (วิหารแพนธีออน) 15 นาทีจากโรมันฟอรั่ม หรือรถบัสสาย 64 ลงที่ป้าย Largo Argentina สร้างขึ้นก่อนคริสต์ศักราช 27 ปี เป็นต้นแบบของการสร้างโดมให้กับศิลปินยุคต่อมา เปิดทุกวันไม่เสียค่าเข้าชม
  • Piazza Navona (เปียซซา นาโวนา) รถบัสสาย 64 จากแตร์มินี่ และสาย 84 จากโคลอสเซียม และสาย 116 อยู่ใกล้กับวิหารแพนธีออน มีร้านคาเฟ่ขายอาหาร และไอศกรีม พร้อมน้ำพุสวยๆ ที่สร้างโดย จิอาน ลอเรนโซ
  • Colosseum (โคลอสเซียม) & Roman Forum ตั้งอยู่สถานนีรถไฟใต้ดิน Colosseum ค่าเข้าชม 11 ยูโร สร้างขึ้นเมือ ค.ศ. 72 ใช้แรงงานนักโทษกว่า 12,000 คน สร้างโดยการเรียงหินขึ้นจากแต่ละด้านบนตรงกลางเป็นก้อนสุดท้าย สามารถจุผู้ชมได้กว่า 50,000 คน สร้างขึ้นสำหรับการต่อสู้ของกลาดิเอเตอร์ การต่อสู้ระหว่างคนกับสัตว์
  • The Spanish Step, Trevi Fountain, Villa Borghese & Via Condotti
    · Scalinata di Spagna (บันไดเสปน) สถานนีรถไฟใต้ดิน Spagna ไม่เสียค่าเข้าชม เป็นบันไดที่เชื่อมระหว่าง Piazza di Spagna & Piazza Trinit dei Monti เป็นบันไดที่กว้างและยาวที่สุดในยุโรปมีทั้งหมด 138 ขั้น ตั้งอยู่ตรงถนน Via Condotti สายชอปปิ้ง
    o The Spanish Steps บันไดเสปนเป็นศิปะโรโกโก เดือนพคเป็นดือนที่งดงามด้วยดอกอะแซเลียส ผู้ออกแบบบันไดนี้ คือ ฟรันเชสโก เด ซันตีส ในปี 1723-1726 สร้างถวายแก่พรเจ้าหลุยส์ที่ 15 มีโบสถ์รูปทรงนาฬิกาทราย ด้านบนบันได ประดับด้วยน้ำพุฝีมือของเบร์นีนี บาร์กัชเชีย
    o Fontana di Trevi (น้ำพุเทรวี่) สถานที่รถไฟใต้ดิน Barberini สร้างขึ้นที่ปลายท่อส่งน้ำ Acqua Vergine เป็นที่ตั้งของถนน 3 สาย Tre Vie จึงกลายเป็นชื่อของน้ำพุ ตามธรรมเนียมให้ใช้มือขาวโยนเหรียญข้ามบ่าซ้ายเพื่อให้มีโอกาสกลับมาที่โรมอีก ในภาพยนตร์เรื่อง La Dolce Vita; Three Coins in a Fountain นางเอกของเรื่องให้ยืนหัวหลังให้น้ำพุ และโยนเหรียญ ด้านขวามีศิลปะภาพนูนของสาวพรหมจารีผู้ค้นพบน้ำพุธรรมชาตินี้
    o Villa Borghese เป็นสวนที่ใหญ่ที่สุดของกรุงโรม ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1,700 ไร่ มีประติมากรรม น้ำพุ หมู่ไม้ ทางเดินปะรำ และนาฬิกาน้ำ และพิพิธภัณฑ์ระดับโลกอีก 3 แห่ง
    o Via Condotti เป็นถนนสายช้อปปิ้งหลักของโรม เปรียบเสมือน Fifth Avenue มีร้านค้าและเสื้อผ้าบูติกยี่ห้อดังหลายแห่ง
    · Trastevere (ตราสเตเวเร) หมายถึงอีกฝากหนึ่งของแม่น้ำไทเบอร์
    o Santa Maria in Trastevere เชื่อว่าเป็นโบสถ์ศาสนาคริสต์ที่โรม
  • แหล่งชอปปิ้ง
    · Versace, Gucci, Prada, Furla, Benetton, Sisley, Corso Como, Emporio Armani, Ferragamo
    · Sephora (Cosmetic Shop) 1. Sephora Roma Termini C.C. Grandi Stazioni 1interrato P.zza dei Cinquecento id.23 00185 ROMA (RM) Tel: (39) 06.47823.445 Monday - Sunday 8h - 22h and 2. Carmen Roma C.C. La Romanina Via E. Ferri 00173 ROMA (RM) Tel: (39) 06.72672.976 Monday 10h - 21h/ Tuesday - Saturday 9h - 21h Sunday 10h - 20h30
    · Rinascente เป็นห้างสรรพสินค้า
  • การขอคืนภาษี
    · ภาษีมูลค่าเพิ่มของอิตาลี (IVA) สามารถขอคืนได้หากซื้อสินค้าเกิน 155 Euro เฉพาะนักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่เชื้อชาติยุโรป โดยขอให้ร้านค้ากรอกแบบฟอร์ม แล้วนำแบบฟอร์มพร้อมใบเสร็จรับเงินไปที่ด่านสนามบิน (ตรวจอัตราภาษีของอิตาลี) และสินค้าต้องยังใหม่ ห้ามใช้ก่อนค่ะ
  • Naples:
    · เนเปิลส์อยู่ในแคว้นกัมปาเนีย (Campania – http://www.regione.campania.it%20หรือ http://www.turismoregionecampania.it/) website ของ เนเปิลส์ http://www.comune.napoli.it/
    · Naples หรือ Napoli อยู่ใกล้กับภูเขาไฟเวสุวิโอ (Monte Vesuvio) ที่เคยปะทุเมื่อ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล จนเถ้าภูเขาไฟไหลลงมาฝังทุกอย่างในเมืองปอมเปอี เนเปิลส์เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของอิตาลี และเป็นเมืองที่มีภูมิทัศน์งดงาม แต่ปัจจุบันประชาชนที่อาศัยในเนเปิลส์มีปัญหาเรื่องการหยุดงาน และการทำงานผิดกฎหมาย จึงต้องระมัดระวังในเรื่องการชกชิงวิ่งราว
  • Pompeii:
    · ปอมเปอีเป็นเมืองที่ถูกภูเขาไฟเวสุวิโอถล่มทับด้วยเถ้าลาวา เมื่อมีการค้นพบในปี คศ 1748 ภายหลังจากที่ถูกฝังมากว่า 2,000 ปี จึงทำให้เห็นภาพที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ได้พบศิลปวัตถุ ภาพเขียน และโบราณวัตถุเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังพบซากศพของชาวเมืองปอมเปอีที่ถูกลาวาครอบคลุ่มในอากับกิริยาที่เป็นวินาทีสุดท้ายของชีวิต
    · ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.pompeiisites.org/
  • Sorrento:
    · ซอเรนโตอยู่ปลายสุดของอ่าวเนเปิลส์ โด่งดังจากเพลง “Come Back to Sorrento” ทำให้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามา ชื่อเมืองซอเรนโตมาจากหน้าผาหินชันที่เรียกว่า Sorrento ปัจจุบันมีที่พักชั้นดีเยอะแยะ และมีฝั่งที่มีชื่อ Amalfi บนเส้นทางเลียบริมทะเลไปตามหน้าผายาวว่า 50 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นเส้นทางที่สวยที่สุดเส้นหนึ่งในยุโรป
    · ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.sorrentotourism.com/

  • Capri & Blue Grotto
    · เกาะคาปรีตั้งอยู่ห่างจากซอเรนโตประมาณ 5 กิโลเมตร ได้ชื่อว่าเป็นเกาะแห่งความสำราญ มีอากาศเย็นสบายทั้งปี มีชื่อเสียงจากความงดงามของ “Blue Grotto” ถ้ำสีฟ้า
    · ชายฝั่งของเกาะคาปรีนั้นมีถ้ำกว่า 10 แห่ง และ Blue Grotto ถูกค้นพบปี 1826 มีทางเข้าแคบๆ สูงจากระดับผิวน้ำเพียงเมตรเศษๆ แต่เมื่อเข้าไปข้างในจะกว้าง ขนาด 45 เมตร ยาว 54 เมตร และสูง 15 เมตร มีแสงสว่างทำให้ถ้ำเป็นสีฟ้ากระจ่างใส
    · ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.capritourism.com/ or http://www.capri.it/

  • Pisa
    · เมืองปิซ่าตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของฟลอเรนซ์ เป็นแปล่งการค้านางน้ำที่สำคัญในอดีต เคยเป็นคู่แข่งกับเจนัว และเวนิส แต่ตะกอนจากแม่น้ำอาร์โนมารวมกันทำให้ที่ปากน้ำกลายเป็นสันดอนดีดขวางการเดินเรือทำให้หมดความสำคัญทางการค้าไป จนมาในปี ค.ศ. 1173 มีการสร้างหอระฆังคัมปานิเล สูง 165 ฟุตซึ่งกลายเป็นหอเอียง ทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังอีกครั้ง และกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลางไป
    o หอเอนปิซ่าตั้งเอนออกมาจากตำแหน่งตั้งฉาก 4.5 เมตร ปัญหาเกิดจากหินอ่อนสูง 55 ม. ตั้งซ้อนบนดินทรายที่น้ำพัด

  • Florence
    · ฟลอเรนซ์เป็นเมืองหลวงของทัสคานี (Tuscany) แปลว่า ความอุดมสมบูรณ์ (Florentia) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอาร์โน เป็นแหล่งกำเนิดศิลปะยุคเรอเสนซองส์ ด้วยการสนับสนุนาของตระกูลเมดิซี่ เป็นตระกูลที่อยู่คู่กับฟลอเรนซ์ เข้ามาตั้งถิ่นฐานในปี 1397 และเริ่มแผ่ขยายอำนาจจนสถาปนาตัวเองเป็นผู้ปกครองฟลอเรนซ์
    การเดินทางมาที่ฟลอเรนซ์
    · ทางเครื่องบิน โดยลงที่สนามบิน Amerigo Vespucci ที่ตั้งอยู่เหนือฟลอเรนซ์ประมาณ 5 กิโล
    · ทางรถไฟ จากโรมให้นั่งรถไฟยูโรสตาร์ดิตาเลีย (Eurostar Italia) มาลงที่สถานีมาเรีย โนเวลลา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง
    การเดินทางภายในฟลอเรนซ์
    · การเดินทางด้วยเท้าสะดวกสบายที่สุด ในฟลอเรนซ์ไม่มีรถไฟใต้ดิน มีรถประจำทาง และรถชมเมือง 2 ชั้น

    แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
    · The Duomo Group, Florence วิหารประจำเมืองฟลอเรนซ์ จุดเด่น คือ โดมดูโอโม ประตูสวรรค์ในหอพิธีเจิมน้ำมนต์ Piata และอื่นๆมากมาย
    · Santa Maria del Fiore โบสถ์หินอ่อน 3 สี (สีขาว จากเมืองคาร์ราร่า สีชมพูจากเซียน่า และ สีเขียว จากปราโด) เป็นโบสถ์ที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของอิตาลี รองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เป็นวิหารประจำเมือง และใช้เวลาสร้างประมาณ 165 ปี เพดานข้างใต้โดมเป็นภาพ The Last Judgement ซึ่งใช้เวลากว่า 7 ปีในการวาด
    · Piazza della Signoria (เปียซซา เดลลา ซินญอเรีย) เป็นลานกลางเมืองที่ใช้ในหลายวัตถุประสงค์ ตั้งแต่การประชุม การรวมพล หรือลานประหาร ด้านข้างของลานเป็นเวทีหลังคาโค้ง ที่สร้างขึ้นสำหรับพิธีทางศาสนา หรือการแสดงรูปประติมากรรม ควรหยุดชมน้ำพุรูปเนปจูนที่สลักด้วยหินอ่อนคาร์เรรา
    · Palazzo Vecchio เดิมเป็นวัง แต่ปัจจุบันเป็นที่ว่าการเมือง ซึ่งเป็นที่ทำงานของผู้ว่าการรัฐ
    · Pointe Vecchino สะพานเวคิโอที่ข้ามแม่น้ำ Arno ที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 14 เป็นสะพานมีหลังคาคลุม มีร้านขายของอยู่สองข้างทาง เป็นสะพานที่เหลือรอดจากการระเบิดของฝ่ายเยอรมันในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
    · Uffizi Gallery ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Uffizi เป็นที่รวมผลงานยุคเรอเนซองซ์ แต่เดิมเป็นที่ว่าการของตระกูลเมดีซีผู้ครองเมือง มีผลงานกว่า 1,700 ชิ้น โดย 10 สุดยอดสิ่งที่น่าชม ประกอบด้วย
    o Birth of Venus รูปภาพวีนัสบนเปลือกหอยครึ่งฝาของบอตเชลลี
    o The Annunciation ผลงานของเลโอนาร์โด ดา วินซี ที่เด่นในเรื่องระยะ และการสร้างภาพลวงตา
    o Holy Family ผลงานของมีเกลันเจโล
    o Maesta ผลงานของจอตโต พระแม่มารีจะมีรูปร่างใหญ่หนา การจัดวางคนที่อยู่บนพื้นทำให้เกินความลึกในภาพ
    o Bacchus ผลงานของการาวัจโจ
    o Primavera ไม่มีใครรู้ความหมายของรูปภาพ เป็นผลงานที่มาพร้อมกับ Birth of Venus ของบอลเชลลี
    o Frederico di Montefeltro and Battista Sforza
    o Venus of Urbino อิทธิพลการวาดภาพเปลือย
    o Madonna of the Long Neck
    o Battle of San Romano ภาพทัศนมิติ
    · Galleria dell’ Accademia เป็นที่ตั้งของ David ที่มิเคลันเจโลปั้นไว้ ในห้องจะเห็นเดวิดยืนเด่นให้เดินชม พร้อมมีคอมพิวเตอร์แสดงภาพสามมิติ ที่ดูได้จากทุกมุม
    o ในวัย 26 ปี มีเกลันเจโลได้หินอ่อนที่เรียกว่า “ยักษ์ใหญ่” และมาเปลี่ยนเป็นรูปปั้น David (1501-1504) ซึ่งเป็นชายหนุ่มผู้คร่ำเคร่งกับงาน
    · San Lorenzo Market ตลาดกลางแจ้ง ขายเครื่องหนัง สินค้าแฟชั่น และกระดาษลายหินอ่อน
    o Enoteca Alessi ไวน์ของร้านที่ดีที่สุดในเมือง

  • Verona
    · เวโรน่าเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของแคว้นเวเนโต ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งในอิตาลี คนรู้จักเวโรน่าจากบทละคร โรมิโอกับจูเลียต ของ วิลเลียม เชกสเปียร์ ที่ใช้เรื่องราวความขัดแจ้งของตระกูลขุนนางสองตระกูลในเมืองนี้มาสร้างเป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มสาว
    o บ้านจูเลียต (Casa di Giulietta or Juliet’s House) คนจำนวนไม่น้อยเชื่อว่าบ้านหลังหนึ่งบนถนนเวีย คัปเปลโลเป็นบ้านของจูเลียต และเชื่อว่าระเบียงเล็กๆที่ชั้น 2 คือระเบียงที่จูเลียตยืนพลอดรักกับโรมิโอ หลังบ้านจะมีรูปจูเลียตหล่อด้วยบรอนซ์ตั้งอยู่ หากหญิงชายคนใดเอามือไปแตะตรงหัวใจก็จะโชคดีเรื่องความรัก

  • Venice
    · เวนิซ หรือเวเนเซีย ตั้งอยูริมฝั่งทะเลอะเดรียติก มีพื้นที่ประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร เป็นเมืองที่ล้อมรอบด้วยน้ำ มีคลองคานาเล่ กรันเด หรือแกรนด์คาแนล ไหลผ่านกลาง เวนิซเคยเป็นเมืองท่าที่ใช้ค้าขายกับยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย เดิมเวนิซเป็นรัฐอิสระ และเพิ่งมารวมกับอิตาลีในปีคศ 1860 กว่านี้เอง บุคคลที่มีชื่อเสียงของเวนิซ คือ มาร์โคโปโล นักเดินทางที่เดินทางไปเมืองจีน โดยใช้เวลากว่า 20 ปีในการเดินทาง
    · เวนิสมีเกาะเล็กเกาะน้อยกว่า 117 เกาะ มีคลอง 150 คลอง มีสะพานข้ามคลอง 409 สะพาน

    การเดินทางมาที่เวนิส และการเดินทางภายในเวนิส
    · ทางรถไฟ จากโรมให้นั่งรถไฟยูโรสตาร์ดิตาเลีย (Eurostar Italia) มาลงที่สถานีมาเรีย โนเวลลา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง
    · ทางรถยนต์สามารถขับรถข้ามทะเลสาบเข้ามาตัวเวนิซได้ แต่ต้องจอดรถไว้ที่จอดรถเปียซซาเล่ โรมา (Rome Square) จากนั้นจึงใช้เรือโดยสารเป็นยานพาหนะเดินทางในเวนิซต่อไป
    · บัตรเวนิส (Venice Card: Carta Venezia) ช่วยประหยัดเงินได้ มี 2 บัตร
    o สีน้ำเงินสำหรับบริการขนส่งมวลชน และห้องน้ำ ราคา 3, 7 วัน
    o สีส้ม จะรวมค่าเข้าพิพิธภัณฑ์เพิ่มเข้าไป
    สถานที่สำคัญในเวนิส
    · สามารถนั่งเรือโดยสร (วาปอเรตโต) สายที่ 1 เริ่มจากสถานีรถไฟไปยังสถานนีสำคัญๆต่างๆ รวมถือ เปียซซ่า ซานมาร์โค สะพานรีอัลโต และสุดที่โบสถ์ซานตามาเรีย เดลลา ซาลูเต้
    · เปียซซ่า ซานมาร์โค (Piazza San Marco หรือ St.Mark’s Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองเวนิซ มีโบสถ์ซานมาร์โค หรือเซนต์มาร์ก เป็นจุดเด่นของลานกว้าง
    o ท่าเรือซานมาร์โค จะมีเสาสูง 2 ต้นอยู่ริมน้ำ เป็นเสาที่นำมาจากเมืองคอนสแตนติโนเปิลในศตวรรษที่ 12 บนยอดเสาเป็นรูปสิงโตมีปีกแห่งเซนต์มาร์ก และยอดเสาอีกต้นเป็นนักบุญธีโอดอร์กับมังกร ซึ่งเสาทั้งสองต้นนี้เป็นสัญบักษณ์ของเมืองเวนิซ
    o การเดินทาง: สามารถมาได้ทางเรือโดยสาร และการเดินเท้า
    · โบสถ์ซานมาร์โค (Basilica di San Marco or St.Mark) เป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุดในเวนิซ สถาปัตยกรรมหลายสมัยตั้งแต่ไบแซนไทน์จนถึงเรอเนสซองส์ ได้รับชื่อ St. Mark มาจากศพของนักบุญมาร์ก ที่ขโมยมาจากเมืองอเล็กซานเดรียของอียิปต์ ด้านหน้ามีภาพเรื่องราวทางศาสนา และภายในเต็มไปด้วยภาพจิตรกรรมโมเสกสีทอง (http://www.basilicasanmarco.it/)
    o St.Mark คือ นักบุญ เป็นหนึ่งในสี่อัครสาวกผู้เขียนประวัติพระเยซูในคัมภีร์ไบเบิลใหม่ เป็นนักบุญอุปถัมภ์เมืองเวนิส
    · ปาลาซโซ ดูคาเล (Palazzo Ducale หรือ Doge Palace) วังดอจของดยุกผู้ครองเมืองเวนิซ สร้างในศตวรรษที่ 9 ท้องพระโรงประดับด้วยทองคำและภาพจิตรกรรม “The Paradise” ของตินโตเรตโตที่เป็นภาพสีน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลก (22x7 เมตร)
    · Bridge of Sighs หรือสะพานถอนหายใจ ซึ่งเป็นสะดานข้ามคลองไปยังคุก ซึ่งเรียกตามอากัปกริยาของนักโทษที่เดินออกจากห้องพิพากษาไปเข้าคุก
    · สะพานรีอัลโต (Ponte di Rialto หรือ Rialto Bridge) เป็น 1 ใน 3 สะพานที่ข้ามแกรนด์คาแนลของเวนิซ เป็นสะพานที่สวยงามและเป็นย่านการค้าเก่าแก่ของเมือง สร้างเมื่อ 1588-1591 ยาว 48 เมตร กว้าง 22 เมตร
    · มูราโน (Murano) มีชื่อเสียงเป็นแหล่งผลติเครื่องแก้ที่งดงาม http://www.lisoladelmurano.it/
    · บูราโน (Burano) มีชื่อเสียงในการทำผ้าลูกไม้ หมูบ้านมักทาสีสันสวยงามสะดุดตา http://www.isoladiburano.it/
    · ลิโด้ (Lido) เป็นสถานที่พักตากอากาศยอดนิยมของสังคมชั้นสูงของยุโรป ปัจจุบันมีโรงแรมและคาสิโน และเป็นที่จัดเทศกาลภาพยนตร์เวนิซเดือนกันยายนทุกปี
    · แกรนด์คาแนล เป็นเส้นทางคมนาคมหลักและเป็นเส้นเลือดใหญ่ของเวนิซ คลองยาว 3.8 กิโลเมตร กว้าง 30-70 เมตร ลึกเฉลี่ย 6 เมตร ส่วนที่กว้างที่สุดคือช่วงใกล้ปากคลองกว้าง 130 เมตร
    o สะพานข้ามแกรน์คาเนล มี 3 สะพาน คือ สะพานกาลซิ สะพานริอัลโต และสะพานอะคาเดเมีย
    · Gondola เป็นเรือที่ออกแบบพิเศษสำหรับแจวในลำคลองที่คดเคี้ยวและแคบ เรือทั้งหมดถูกกำหนดให้ทาสีดำเพื่อให้ยุติปัญหาการตกแต่งเรือเพื่ออวดความร่ำรวย ค่าโดยสารเรืองแพง จึงมีแต่เฉพาะนักท่องเที่ยวเท่านั้นที่นั่ง คนแจวเรือ เรียกว่า Gondolier กอนโดเลียร์ จะร้องเพลงให้ฟังขณะแจวเรือไปด้วย
    · ทางเครื่องบิน โดยลงที่สนามบิน Amerigo Vespucci ที่ตั้งอยู่เหนือฟลอเรนซ์ประมาณ 5 กิโล
    · ทางรถไฟ จากโรมให้นั่งรถไฟยูโรสตาร์ดิตาเลีย (Eurostar Italia) มาลงที่สถานีมาเรีย โนเวลลา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชั่วโมง
  • อาหารการกิน
    Osteria/ Trattoria/ Ristoranti แปลว่าร้านอาหาร และ Pizzeria แปลว่าร้านพิซซ่า ลำดับการทานและสั่งอาหาร Antipasto (ของว่าง) Primo (อาหารจานแป้ง) Secondo (อาหารจานเนื้อ) Contorni (ผัก หรือ ซุป) และสุดท้ายคือ Dolce (อาหารหวาน)
  • สำหรับนักท่องเที่ยว หากต้องการความสะดวกสบาย แนะนำร้านอาหารแบบ Self Service ที่มีราคาถูกกว่าเพราะไม่ต้องมีคนเสริฟ์ และเลือกอาหารได้ตามที่ต้องการ ใช้เวลาไม่มาก และรสชาติก็อร่อยใช้ได้เลย สำหรับคนไทยที่ต้องการรสจัดจ้านแนะนำให้แอบพกซอสมะเขือเทศซองไปด้วย อาหารอิตาลีจริงๆ รสไม่จัดเท่าที่เมืองไทย แถมหากขอซอสมะเขือเทศ ยังมีการคิดเงินอีก
    น้ำดื่มราคาค่อนข้างสูง 1-3 ยูโร โดยเฉพาะหากอยู่ในแหล่งท่องเที่ยว แนะนำให้ขอเติมจากโรงแรมตอนอาหารเช้าจะดีกว่าประหยัดกว่ามาก สำหรับน้ำอัดลมราคาประมาณ 3 ยูโร รสชาติไม่หวานและซ่าเท่าบ้านเรา แต่ก็ทำให้ไม่ปวดท้องเท่าไหร่
  • อาหารเช้าจะเป็นมื้อเบาๆ อาหารกลางวันเรียกว่า Pranzo แนะนำให้นักท่องเที่ยวเลือกโรงแรมที่มีอาหารเข้าบริการ หรือรวม ABF ด้วยเนื่องจากรอบทานอาหารคนอิตาลีแตกต่างจากบ้านเรา คนอิตาลีมักทานอาหารกลางวันช่วงบ่าย 2-4 และอาหารเย็นประมาณ 2 ถึง 4 ทุ่ม ทำให้อาหารเช้าของคนอิตาลีมักเป็นแบบเบาๆ พวกเราเดินหาอาหารเช้าดีๆ แบบ American Breakfast ทั้งโรมยังไม่สามารถหาได้ McDonald ก็เปิดบริการ 10:00 เช้าเป็นต้นไป
  • Gelato (ไอศกรีม) ได้ชื่อว่าอร่อยที่สุดในโลก การสั่งไอศกรีมให้จ่ายเงินก่อนที่แคชเชียร์ และนำใบเสร็จมารับไอศกรีม ถ้าต้องการใส่โคนให้บอกว่า “โคโน (cono)” หรือถ้าใส่ถ้วยให้บอกว่า “คอปปา (coppa)” ราคาประมาณ 1 – 4 ยูโร หากต้องการเลือกหลายรสชาดก็จ่ายแพงขึ้นไปอีก
    ทิรามิสุ ของหวานอินาเลียนอีกอย่างที่ขึ้นชื่อ

  • บุคคลสำคัญของอิตาลี
    Archimedes ค้นพบหลักการของปริมาตรน้ำ
    Leonardo da Vinci นักวิทยาศาสตร์และศิลปินเอกแห่งยุค
    Galileo Galilei นักดาราศาสตร์ที่ประกาศว่าโลกกลมและโลกหมุนรอบดวงอาทิตย์
    Marco Polo นักเดินทางชาวเวนิช เกิดและโตที่เวนิส เป็นชาวยุโรปชุดแรกๆที่เดินทางข้ามทวีปเอเชียตามเส้นทางสายไหม
    Christopher Columbus นักเดินเรือชาวเจนัวผู้ค้นพบทวีปอเมริกา
    Michealangelo
    Bettulicia


  • ศิลปะอิตาลี
    ศิลปะแบบกรีก พวกกรีกเป็นชนเผ่ายูโรเปียน เรียกตัวเองว่า “เฮเลนิส” กรีกเป็นจุดเริ่มต้นของอารยธรรมตะวันตก เน้นการสร้างศิลปะที่เหมือนจริง นิยมการถ่ายทองรูปเทพเจ้าที่ตนนับถือโดยใช้เรือนร่างของมนุษย์เป็นสื่อแทน งานประติมากรรมส่วนใหญ่เป็นแบบลอยตัว นิยมสร้างด้วยหินอ่อน อาทิเช่น วิหาร สนามกีฬา และโรงละคร มักสร้างหัวเสาอยู่ 3 แบบ คือ Doric, Ionic & Corinthian ศิลปะกรีก เป็นที่แพร่หลายมาจากการขยายอำนาจของ Alexander the Great ที่นำกำลังบุกยึกยุโรป เอเชีย และแอฟริกา
    ศิลปะแบบโรมัน ชาวโรมันมาตั้งรกรากอยู่ที่เนินเขาลุ่มแม่น้ำไทเบอร์ ใช้ภาษาลาตินเป็นหลัก ก่อตั้งโรมเมือจักรพรรดิออกุสตุส ซีซาร์ แห่งราชวาศ์จูเลี่ยน ขึ้นครองราชย์ สถาปัตยกรรมแบบโรมันพัฒนาเป็นอย่างมากเมื่อมีการค้นพบ “คอนกรีต” ทำให้มีการสร้างโดม หัวเสาโรมันมี 5 แบบ โดย 3 แบบแรกเป็นของกรีก และอีก 2 แบบเป็นของโรมัน สถาปัตยกรรมที่เด่นๆ คือ โรงอาบน้ำสาธารณะ และท่อลำเลียงน้ำ
    ศิลปะแบบคริสเตียน และไบแซนไทน์ แบบคริสเตียนรับอิทธิพลมาจากโรมัน และไบแซนไทน์นั้นได้รับมาจากแขก ซึ่งเมืองหลวงของจักรวรรดิไบแซนไทน์คือที่กรุงคอนสแตนติโนเปิล หรืออิสตัลบูลในปัจจุบัน โบสถ์ซานมาร์โก้ และวังโดจด์กลางเมืองเวนิชเป็นจุดที่ชมศิลปะไบแซนไทน์ได้อย่างดี
    ศิลปะเรอเนสซองส์ หรือ “ยุดฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ” เป็นการื้อฟื้นศิลปะกรีก และโรมันขึ้นมาอีกครั้ง
    ภาพเฟรสโก
    ภาพเฟรสโกโบราณ: เชื่อกันว่าเกิดครั้งแรกที่เกาะครีต ประเทศกรีซ เป็นรูปกีฬาสู้วัวกระทิง ทำจากผงสีเหลือง สีแดงที่ได้จากออกไซด์ของแร่ธาตุมาผสมกัน
    ภาพเฟรสโกแบบอิตาเลียน: เกิดจากฝีมือของศิลปินชาวฟลอเรนซ์ ชื่อ Giotto and Masaccio โดยใช้สีผสมกับน้ำและวาดลงบนผนังปูน หรือเพดานปูนที่ยังหมายๆอยู่

  • ประโยคสำคัญ
    Misscusi ขอโทษนะค่ะ เหมือน Excuse me (Mis-sa-cou-si)
    Gracia ขอบคุณค่ะ (Gra-cis)
    Bonjourne สวัสดีตอนเช้า
    Bonasera สวัสดีตอนเย็น
    Quanto เท่าไหร่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น