About Me

รูปภาพของฉัน
Bangkok, Thailand
นักเดินทางอิสระ

9/01/2552

Day 1: โรม ช้อปปิ้ง

เราได้ดู Roman Holiday ที่แสดงโดยออเดรย์ แฮปเปิ้น และนึกถึงตอนที่ได้มีโอกาสไปที่โรม หนังเรื่องนี้สร้างมาหลายสิบปี แต่สถานที่ต่างๆ ยังเหมือนเดิม คงเหมือนกับที่หลายคนพูดไว้ว่าโรมนั้นเป็น Eternal City (นครอมตะ)

โรม (Rome) เมืองหลวงของอิตาลี สร้างขึ้นเมื่อ 753 ปีก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่ในแคว้นลาซิโอ (Lacio) มีแม่น้ำไทเบอร์ (Tiber) ไหลผ่าน แยกโรมเป็น 2 ส่วน ฝั่งซ้ายเป็นนครวาติกัน เมืองหลวงของศาสนาคริสตนิกายโรมันคาทอลิก และฝั่งขวาเป็นโรมเมืองหลวงที่ได้ชื่อว่า Eternal City

ตามตำนานเล่าว่า โรมิวลุส (Romulus) เป็นผู้ก่อตั้งโรม โดยมีฝาแฝด ชื่อเรมุส (Remus) ที่ถูกใส่ในตระกร้าลอยน้ำมาตอนเด็ก จนแม่สุนัขหมาป่าเก็บมาเลี้ยงดู โตขึ้นมาเกิดทะเลาะกันจนโรมิวลุส ฆ่าเรมุสตาย จากความเชื่อนี้ทำให้เราเห็นสัญลักษณ์แม่หมาป่ามีลูก 2 คนดูดนมในที่ต่างๆ ของโรม



พวกเราเดินทางมาถึงสนามบินฟูมิชิโอ (Fiumicino หรือ Leonardo da Vinci Airport) ที่เป็นสนามบินหลักของโรมตอนบ่ายๆ ตัดสินใจเลือกแท็กซี่เข้าโรม เพราะมีกระเป๋าสัมภาระเยอะ เราใช้บริหารแท็กซี่ป้ายขาวที่มี Auto Meter ที่จอดเรียงอยู่ด้านนอกแอร์พอร์ต ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที และค่าใช้จ่ายประมาณ 60 ยูโร (นอกจากรถแท็กซี่ สามารถเดินทางเข้าโรมได้ด้วยรถไฟสาย Leonardo Express ให้บริการทุก :05 และ :35 ของทุกชั่วโมง ราคา 11 ยูโรต่อเที่ยว)




เราเลือกที่พักอยู่ใจกลางย่านถนนช็อปปิ้ง Via Condotti (Via แปลว่าถนน ใช้นำหน้าชื่อถนนต่างๆ) โรงแรมของเราชื่อ The Inn at The Spanish Steps ที่ห่างจาก Spanish Steps (Piazza di Spagna) แค่ 10 ก้าว และอยู่เหนือ Prada Shop ตรงข้ามกับ Gucci Shop และแบรนด์เนมต่างๆอีกมากมาย ร้านอาหารก็หาได้ง่าย แต่ราคาอาจแพงหน่อยเพราะเป็นแหล่งท่องเที่ยวThe Inn at The Spanish Step เป็นหนึ่งในโรงแรม Small Luxury Hotels ที่มีบริการเป็นเลิศ แต่ทางขึ้น หรือห้องนอนค่อนข้างเล็ก แถมเก่าๆ แบบสไตล์ยุโรป หากสนใจสามารถจองผ่าน www.booking.com ได้ราคาประมาณ 12,000 บาทต่อคืนหรือผ่านโรงแรมตรงที่ www.atspanishsteps.com












หลังจากเข้าพัก อาบน้ำอาบท่า พวกเราก็รีบเร่งออกมาสำรวจตรวจตรา ร้านรวงแถวๆ ที่พักโรงแรมเรา ที่ได้ชื่อว่าเป็นถนนช็อปปิ้งอันดับต้นๆของโลก เริ่มจาก Via Condotti เป็นถนนเส้นหลัก ที่เป็นที่ตั้งของ Top Brands อาทิเช่น Louis Vuitton, Tods, Prada, Gucci, Ferragamo, Valentino และอื่นๆอีกมากมาย สำหรับเราสินค้าพวกนี้ก็เหมือนกันทั่วโลก ราคาไม่ต่างกันมาก แต่ที่จะแนะนำคือให้สังเกตการแต่งช็อป และ Window ที่ทำมาแข่งขันกันอย่างเต็มที่ Window ของ Valentino ทำได้สวยจับใจจริงๆ สำหรับสาวก Prada ก็ต้องชอบใจแน่ เพราะมีถึง 2 ตึก แยกหญิง ชายให้ช็อปกันอย่างจุใจ เมื่อเดินไปสุดถนน Via Condotti แนะนำให้ลองเดินไปซอกซอยข้างๆบ้าง ก็จะเจอร้านค้าราคาปานกลางอื่นๆ เช่น Mui Mui, Furla, H&M, Sephora, Benetton, Sisley และอื่นๆมากมายรวมทั้งยี่ห้อท้องถิ่น และห้างสรรพสินค้า La Rinascente มาถึงอิตาลีทั้งทีก็คงต้องซื้อแบรนด์อิตาลีติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง คุณสามีช็อป Hogan รองเท้าชายคุณภาพดี น้องๆ Tods ไป 1 คู่สำหรับวันแรกที่โรม หลังจากซื้อก็ทำคืนภาษีกันที่ร้าน ซึ่งร้านส่วนใหญ่สามารถขอคืนภาษีได้ ภาษีมูลค่าเพิ่มของอิตาลี (IVA) สามารถขอคืนได้ประมาณ 13% โดยต้องซื้อสินค้าเกิน 155 ยูโรต่อใบเสร็จ แนะนำให้สำเนา Passport ของเราติดตัวไปด้วยเพราะต้องใช้กรอกรายละเอียดให้ถูกต้อง
พวกเราจบการเดินทางในโรมวันแรกด้วยการทานอาหารอิตาเลียนที่ Fiaschetteria ซอยข้างๆ Via Condotti ซึ่งได้รับการแนะนำจากหนังสือ Top 10 Rome ราคาปานกลาง รสชาติดี ผักสด และอร่อยตามแบบฉบับเมดิเตอร์เรเนียน



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น