About Me

รูปภาพของฉัน
Bangkok, Thailand
นักเดินทางอิสระ

9/01/2552

Day 2: โรม บันไดเสปน น้ำพุเทรวี่ Outlet

เช้าวันใหม่เราเริ่มต้นสำรวจโรมด้วยการเดินเท้าตั่งแต่ 7 โมงเข้า ซึ่งสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงดูแผนที่ที่ขอจากโรงแรม พวกเราก็สามารถเยี่ยมชมโรมบางส่วนได้ภายในครึ่งวันเช้า จากโรงแรมเราออกแต่เช้าไปที่ Spanish Steps ซึ่งยังร้างผู้คนอยู่ และถ่ายรูปกันให้หน่ำใจ Spanish Steps หรือบันไดเสปน เป็นบันไดที่กว้างและยาวที่สุดในยุโรป มีทั้งหมด 138 ขั้น ตั้งอยู่ตรงข้าม Via Condotti บันไดเสปนนี้สร้างด้วยศิลปะโรโกโก เดือนพฤษภาคมเป็นเดือนที่งดงามที่สุด เพราะมีดอกอะแซเลียสตกแต่งตามขั้นบันได (โชคดีที่เราได้มีโอกาสไปช่วงนี้พอดี) ตามประวัติ เป็นบันไดที่สร้างถวายพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 มีน้ำพุฝีมือแบร์นินี บาร์กัชเชียอยู่ด้านหน้า











ขอแนะนำให้มาตอนเช้า ที่คนยังน้อย เพราะตอนสายๆ คนจะเยอะมาก ถ่ายรูปไม่สนุก แต่ถ้าไม่มายด์ ก็ถือว่ามาดูผู้คนหนุ่มสาวชาวอิตาลีมาอาบแดดแทนก็ได้ และที่สำคัญควรแวะชิม Gelato (ร้าน Ice Crème) ที่ตั้งอยู่ปลายบันได (ต้องข้ามถนนมาหน่อย) อร่อยมากๆ หาไม่ยาก หากเดินตรงมาจากบันได้ให้มองไปด้านซ้ายมือ จะเห็นผู้คนรุมๆกันอยู่ ราคาประมาณ 2 ยูโร แล้วแต่จำนวนรสชาติที่เลือก



จากนั้นเราเดินตามแผนที่ไป Fontana di Trevi หรือน้ำพุเทรวี่ ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จาก Spanish Steps โชคดีมากที่แทบไม่มีผู้คน เลยได้ถ่ายรูปกันเอง 2 คนอีกเช่นเคย น้ำพุเทรวี่นี้ถูกสร้างขึ้นที่ปลายท่อส่งน้ำของถนน 3 สาย จึงกลายเป็นชื่อของน้ำพุ เราปฏิบัติตามธรรมเนียมเป๊ะ คือโยนเหรียญข้ามบ่าซ้าย โดยใช้มือขวาเพื่อให้มีโอกาสกลับมาที่โรมอีก ตามนางเอกของหนังเรื่อง La Dolce Vita








จากนั้นเราเดินต่อไปที่วิหาร Pantheon (แพนธีนอน) ถ่ายรูปแต่ด้านนอก ไม่อยากเข้าด้านใน ให้เหตุผลตัวเองว่า เพราะเราเคยเห็น Pantheon ที่กรีซมาแล้วและคิดว่าน่าจะคล้ายกัน (อาจจะผิดก็ได้นะ) เลยเดินต่อไปที่ Piazza Navona (เปียซซา นาโวนา) ที่เป็นลานกว้าง มีน้ำพุของจิอาน ลอเรนโซ และล้อมรอบไปด้วยร้านอาหาร คาเฟ่ต่างๆ โชคดีที่วันนั้นท้องฟ้าสวยมาก เราเลยได้รูปสวยๆมากฝากทุกคน














จาก Piazza Navona เราเดินต่อไปที่ Campo de Fiori หรือสวนดอกไม้ของโรม ขอบอกว่าผิดหวังอย่างแรง เพราะคาดหวังว่าจะได้เห็นเหมือนปากคลองตลาด แต่เอาเข้าจริงเป็นเพียงตลาดสด มีขายทั้งของสด ผลไม้ และดอกไม้ เอาน่า … มาถึงแล้วก็แวะซื้อผลไม้สดๆติดไม้ติดมือไปบ้าง และเดินเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยๆ แบบไร้ทิศทาง จนมาถึงแม่น้ำไทเบอร์ วิวสวย โรแมนติกจับใจจริงๆ หยุดแวะถ่ายรูปที่สะพานต่างๆ พร้อมรูปปั้นตามหัวและตัวสะพานตามภาพที่เห็น
















เนื่องจากเรายังมีเวลาที่โรมอีก เลยขอหยุดการสำรวจไว้แค่นี้ก่อน และกลับไปที่โรงแรมของเรา เพื่อไปช็อปต่อที่ Castel Romano Designer Outlet ที่อยู่ห่างโรมไปประมาณ 30 นาที (สามารถจองรถได้ที่ Reception ของโรงแรม ราคา 25 ยูโรต่อคน) Castel Romano มีร้านรวงรวมแล้วประมาณ 100 ร้านค้า ตั่งแต่ Designer labels ไปจนถึงแบรนด์ท้องถิ่น อาทิเช่น Valentino, Burberry, Etro, Feragamo, Dolce & Gabbana และอื่นๆอีกหลายยี่ห้อ โดยส่วนตัว ไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ เพราะไม่มีแบรนด์ที่ชอบใจ แต่เมื่อมาทั้งที และหากมีเวลาก็เป็นอีกที่ๆ น่าช็อป สามารถศึกษาข้อมูลได้ก่อนตัดสินใจที่ www.mcarthurglen.it/castelromano/home








คืนนั้นค่อนข้างเหนื่อยกันทั้งสองคน เพราะตื่นเช้า และยังปรับเวลาไม่ค่อยได้ เลยตัดสินใจฝากท้องที่ Mcdonal ทานเป็นอาหารเย็นที่โรงแรมกัน ไหนๆ พูดถึง Mcdonal จะขอเล่าให้ฟังอีกนิดว่า Mc ที่นี่เปิดสายปิดเร็ว หายากที่จะบริการ 24 ชั่วโมงเหมือนบ้านเรา นอกจากนั้นบาง Mc ยังต้องมีการจัดระเบียบปรับสีโลโก้ เพื่อไม่ให้โดดเด่นกว่าสถาปัตยกรรม ตึกราบ้านช่อง ดังนั้นอาจหายากนิดหน่อย หากต้องการดูสีเหลืองแดงเป็นหลัก

1 ความคิดเห็น: